ทำไมเด็กควรได้รับ "ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV"
22 พฤษภาคม 2568

ทำไมเด็กควรได้รับ " ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV "
การติดเชื้อ RSV (Respiratory Syncytal Virus; RSV) เป็นสาเหตุสำคัญของโรคระบบหายใจเฉียบพลันในเด็ก โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
การติดเชื้อ RSV ครั้งแรกสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ หรือปอดอักเสบได้ถึงร้อยละ 20-30 และประมาณร้อยละ 1-3 มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างอย่างรุนแรง จำเป็นต้องเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยบางรายได้รับการรักษาใน ICU ตลอดจนอาจทำให้เสียชีวิตได้
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะทางสำหรับผู้ติดเชื้อไวรัส RSV ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ RSV ช่วยลดความรุนแรงของ RSV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย
- ลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง 79.5%
- ลดความเสี่ยงต้องนอนโรงพยาบาล 83.2%
- ลดการนอนโรงพยาบาลจากอาการรุนแรงถึง 75.3%
การระบาดของเชื้อ RSV มักจะเริ่มเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนประมาณช่วงเดือนมิถุนายน และระบาดสูงสุดในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม หลังจากนั้นจะลดน้อยลงไปเมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
อาการจากการติดเชื้อ RSV
- คล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล
- หลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ หรือปอดอักเสบ
- บางรายมีอาการไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด
- มีเสียงครืดคราดในลำคอ และมีเสมหะมากกว่าไข้หวัดธรรมดา
- เด็กเล็กหายใจลำบาก เนื่องจากไม่สามารถเอาน้ำมูกหรือเสมหะออกเองได้
ปัจจุบันสามารถป้องกันการติดเชื้อ RSV และลดความรุนแรงในเด็กได้ด้วยการ ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ RSV ( Nirsevimab) ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่ช่วยต้านการติดเชื้อ ไวรัส RSV ได้ทันที ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนะนำให้ฉีดตามช่วงอายุของเด็ก:
- เด็กแรกเกิด – 12 เดือน: ฉีด 1 เข็ม
- เด็กอายุ 12 – 24 เดือน: ฉีด 2 เข็ม
เรียบเรียงบทความโดย พญ.ณัชชา สากระจาย กุมารเวชศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจ