ทำไมต้องตรวจมะเร็งปากมดลูก?
เพราะผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก คุณสุภาพสตรีหลายท่านคงมีความกังวลในการตรวจ
แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการตรวจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
HPV หรือ “Human Papillomavirus” เป็นเชื้อไวรัสก่อให้เกิดโรคติดเชื้อ ผ่านการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ ได้แก่ มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งอวัยวะเพศชาย
อาการของมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก มักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่คุณสุภาพสตรี สามารถลองสังเกต
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ เช่น
- ตกขาวมีเลือดปน หรือ ตกขาวมากกว่าปกติ
- เลือดออกจากช่องคลอด หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เลือดออกหลังจากหมดประจำเดือน
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ปวดเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อย ปวดหน่วงบริเวณหัวหน่าว
- ปัสสาวะ/อุจจาระปนเลือด
- ปัสสาวะไม่ค่อยออก
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- ปวดหลัง ขาบวม ไตวาย (กรณีที่มะเร็งมีระยะลุกลามมาก)
หากสังเกตพบอาการผิดปกติดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
*การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV DNA test เป็นการตรวจมาตรฐานในปัจจุบัน มีความไวในการตรวจพบระยะก่อนมะเร็งสูง เพื่อหาต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก
- อายุสำหรับการตรวจคัดกรอง เริ่มที่อายุ 25-30 ปี
- ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก ตั้งแต่เรามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
- มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV เพราะเป็นเชื้อที่ติดง่าย
- นอกจากเพศสัมพันธ์แล้ว ยังสามารถติดต่อทางการสัมผัสได้ด้วย (เป็นลักษณะพาหะที่นำพาเชื้อไปสู่ช่องคลอดได้)
- แต่พอติดเชื้อแล้ว กลับไม่มีอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่มีบาดแผลอะไรเกิดขึ้น (เกิดความผิดปกติระดับเซลล์ ซึ่งใช้เวลานานหลายปี ก่อนกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก)
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ควรฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
การฉีดวัคซีน HPV สามารถป้องกันโรคและมะเร็งที่เกิดจาก HPV ได้สูงถึง 97-100% สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี (ฉีด 3 เข็ม หากอายุเท่ากับหรือมากกว่า 15 ปี)
- การฉีดวัคซีนจะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ และจะต้องฉีดเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 – 2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
- วัคซีนนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อฉีดให้กับเด็กผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ (9 – 26 ปี) หรือสตรีที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์
- หากเป็นสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว (วัคซีนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ที่ยังไม่มีการติดเชื้อ HPV หรือไม่มีเซลล์ผิดปกติ)
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากพบความเสี่ยงควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
“มะเร็งปากมดลูก” เป็นมะเร็งทางนรีเวช ที่สามารถตรวจคัดกรองได้ และถ้าหากพบจะป้องกันและรักษาให้หายได้ โดยการตรวจภายในเป็นประจำ หรับท่านที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยัง คงต้องตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ
บทความโดย : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกตรวจสุขภาพ
สถานที่
อาคาร A ชั้น 2
เวลาทำการ
07:00 - 15:00 น.
เบอร์ติดต่อ
045-244-999
แผนกสูตินรีเวช
สถานที่
อาคาร A ชั้น 2
เวลาทำการ
09:00 - 14:00 น.
เบอร์ติดต่อ
045-244-999